บทบาทของแป้งโครไมต์ในเม็ดสีแร่ธาตุ
แป้งโครไมต์ มีบทบาทสำคัญในเม็ดสีแร่ธาตุ ซึ่งสะท้อนให้เห็นในด้านต่างๆ ดังต่อไปนี้:
Ⅰ. เป็นเม็ดแร่สีเขียว
ส่วนประกอบหลักของแป้งโครไมต์คือโครไมต์ ซึ่งประกอบด้วยโครเมียมออกไซด์ เหล็ก และแมกนีเซียม ในจำนวนนี้ โครเมียมไตรวาเลนต์ (Cr2O3) เป็นเม็ดสีแร่ธาตุสีเขียวที่สำคัญ แป้งโครไมต์ธรรมชาติสามารถใช้เป็นเม็ดสีสีเขียวได้โดยตรงโดยไม่ต้องสังเคราะห์ทางเคมี ช่วยให้ได้สีเขียวตามธรรมชาติสำหรับการวาดภาพ งานฝีมือ ของเก่า การบูรณะโบราณวัตถุ และสาขาอื่นๆ
Ⅱ. เพิ่มประสิทธิภาพของเม็ดสี
1.สีสันสมบูรณ์: แป้งโครไมต์มีสีเขียวสดใส การเติมแป้งโครไมต์ลงในเม็ดสีจะช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ของสีและความสว่างของเม็ดสี ทำให้พื้นผิวของวัตถุที่เคลือบสวยงามยิ่งขึ้น
2. ทนทานต่อสภาพอากาศ: เม็ดสีที่ทำจากแป้งโครไมต์มีคุณสมบัติทนทานต่อสภาพอากาศได้ดี ต้านทานการกัดเซาะของสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ เช่น แสงแดด ลม และฝน และยังรักษาความคงทนของสีได้อีกด้วย
3. ทนความร้อน: แป้งโครไมต์ทนความร้อนได้ดีเยี่ยมและทนต่อสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงได้โดยไม่เปลี่ยนสี จึงเหมาะสำหรับวัตถุที่ต้องผ่านกระบวนการอบด้วยอุณหภูมิสูง เช่น เซรามิก แก้ว เป็นต้น
Ⅲ. ปรับปรุงประสิทธิภาพการเคลือบ
การเติมแป้งโครไมต์ในปริมาณที่เหมาะสมลงในสารเคลือบสามารถช่วยเพิ่มสี ความทนทานต่อสภาพอากาศ และความทนต่อการสึกหรอของสารเคลือบได้ ความแข็งและความทนทานต่อการสึกหรอที่สูงของแป้งโครไมต์สามารถเพิ่มความแข็งและความทนทานต่อรอยขีดข่วนของสารเคลือบได้ และปรับปรุงอายุการใช้งานของสารเคลือบ ในเวลาเดียวกัน ความเสถียรทางเคมีที่ดียังช่วยให้สารเคลือบสามารถต้านทานการกัดกร่อนของสารเคมีต่างๆ ได้อีกด้วย
Ⅳ. พื้นที่ใช้งานที่กว้างขวาง
1.อุตสาหกรรมเซรามิก: เป็นสารเติมแต่งสำหรับเคลือบเซรามิกสีเขียว ใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์เซรามิกต่างๆ ที่ต้องการสีเขียว
2.อุตสาหกรรมแก้ว: เป็นสารสีเขียวสำหรับภาชนะแก้ว เช่น ขวดเบียร์สีเขียวหรือมะกอก ขวดไวน์แดง เป็นต้น
3. อุตสาหกรรมหมึกและเม็ดสี: แป้งโครไมต์ละเอียดพิเศษสามารถนำมาใช้ผลิตหมึกพิมพ์เพื่อปรับปรุงสีและเอฟเฟกต์การพิมพ์ของหมึก
4.อุตสาหกรรมการหล่อ: ใช้สำหรับเคลือบชิ้นส่วนสำคัญของการหล่อทรายเพื่อป้องกันข้อบกพร่อง เช่น ทรายติด รอยแตก และรูพรุน
5. สารเคลือบทนทานต่อการสึกหรอ: ผลิตจากสารเคลือบทนทานต่อการสึกหรอ ใช้สำหรับบุผิวชิ้นส่วนเครื่องจักร วัสดุก่อสร้าง และอุปกรณ์เคมี เพื่อเพิ่มความทนทานต่อการสึกหรอและการกัดกร่อน